การเข้าใจสภาพอากาศ ทิศทางแดด ลม เป็นอีกเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่จะมองข้ามไปไม่ได้ในการวางแปลนบ้าน ที่จะต้องเอื้อต่อการใช้สอยของคนในบ้าน ซึ่งทุกคนอยากให้บ้านมีอากาศที่เย็นสบาย ได้นั่งจิบ ชา กาแฟที่สวนหรือระเบียงข้างบ้าน มีสายลมอ่อนๆพัดผ่าน หลบแดดในช่วงบ่ายที่ร้อนแรง และไม่ให้แสงแดดส่องเข้าไปในบริเวณบ้าน
แสงแดด
ฤดูกาลประเทศของเรา แบ่งเป็น 3 ฤดู ซึ่งในแต่ละฤดู แนวแกนโคจรของดวงอาทิตย์ในแต่ละช่วงเวลาก็จะแตกต่างกัน
ส่งผลต่อแสงแดดที่ต่างกันออกไปในช่วงเวลาต่างๆ แสงแดดในช่วงฤดูหนาวดวงอาทิตย์โคจรอ้อมไปทางทิศใต้ แสงแดดในช่วงฤดูฝนดวงอาทิตย์โคจรอ้อมไปทางทิศเหนือ แสงแดดในช่วงฤดูร้อนมีการโคจรแนวแกนทิศตะวันออกมายังทิศตะวันตก ดังนั้นบ้านควรหันด้านยาวไปทางทิศเหนือ-ใต้ เพื่อให้แสงแดดกระทบผนังบ้านให้น้อยที่สุด และทิศใต้ควรปลูกไม้พลัดใบ ซึ่งช่วงหน้าร้อนจะให้ร่มเงาแก่บ้านที่เพียงพอ และช่วงหน้าหนาวไม้จะพลัดใบทำให้แสงแดดสามารถผ่านเข้ามาในบริเวณบ้านเพิ่มความอบอุ่นให้รอบๆพื้นที่เราได้
ลม
ทิศทางของลมสำคัญเท่ากับทิศทางของแสงแดด ซึ่งลมจะมาทางทิศใต้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงปลายเดือนกันยายนหรือตุลาคม จากนั้นลมจะเปลี่ยนมาทางทิศเหนือในช่วงเดือนคุลาคมถึงมกราคม
ถ้าลมเข้ามาในบริเวณมากเกินไปจะทำให้เรารู้สึกไม่สบายหรือลำคาญได้ เราต้องการลมพัดเข้ามาเบาๆ และช่วยลดความร้อนของบ้านได้ด้วย ซึ่งการนำต้นไม้หรือพุ่มไม้มาบังจะช่วยลดความแรงของลมได้
เมื่อเรารู้ทิศทางของลมและแสงแดดแล้ว ต่อไปเรามาจัดการให้บ้านเราน่าอยู่กัน โดยการปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่มีทรงแผ่กว้าง และโปร่งบริเวณรอบๆอาคาร เพื่อให้ร่มเงาช่วยลดความร้อนที่เกิดจากดวงอาทิตย์ ลดอุณหภูมิและความร้อนเข้าบ้านเรา ซึ่งเราจะปลูกในบริเวณทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของตัวบ้านเพื่อไม่ให้บังลมเข้า ใช้ไม้พุ่มเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เย็น โดยให้ลมสามารถพัดผ่านได้ ปลูกหญ้าหรือพืชคลุมดินเพื่อป้องกันความร้อนให้กับดินและทำให้อุณหภูมิผิวของสภาพแวดล้อมเย็นลง ช่วยลดการสะท้อนความร้อนจากพื้นเข้าสู่บ้าน
เพียงเท่านี้ทิศแสงแดดและลมก็ไม่ใช่ปัญหาสำคัญของเราอีกต่อไป
เรามาปลูกต้นไม้กันนะคะ...
No comments:
Post a Comment