Garden Maintenance ดูแลต้นไม้ในสวนสวยๆ


Garden Maintenance
สวนสวยๆที่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของเราและเห็นทุกๆวันนี้ จะมีต้นไม้หลากหลายประเภท เช่น ไม้ยืนต้น ไม่พุ่ม ไม้คลุมดิน ไม้เลื้อย ไม้น้ำ ซึ่งวิธีการดูแลรักษาต้นไม้แต่ละประเภทมีแตกต่างกันไปบ้าง ตามชนิดของพืชนั้นๆ หลักในการดูแลรักษาตันไม้ก็จะเหมือนๆกันะคะ คือ ต้นไม้ทุกต้นในสวนต้องการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คงความสวยงามของต้นไม้ และรูปแบบของสวนให้ดูเป็นระเบียบและสดชื่น เป็นที่พักผ่อนได้ตลอกไป


ดูแลต้นไม้ในสวน

ความยากง่ายในการดูแลรักษาต้นไม้ภายในสวนนั้นขึ้นอยู่กับการกำหนดกลุ่มต้นไม้ลงในพื้นที่ของสวน โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบสวน หากในตอนออกแบบสวนได้คำนึงถึงข้อนี้ไว้ล่วงหน้าเพื่อการดูแลรักษาต้นไม้ในสวนก็ไม่ยากเลยนะคะ

ดูแลต้นไม้ในสวนสวยๆ

มาดูกันดีกว่าว่า การดูแลรักษาต้นไม้ในสวนให้คงความสวยและต้นไม้มีสุขภาพดีนั้น เราจะต้องทำอะไรกันบ้าง...

1. การกำจัดวัชพืช วัชพืชกับสวนนั้น แทบจะเป็นคู่หู (แต่ไม่ฮา) ที่ไม่สามารถแยกจากกันได้จริงๆ หรือที่ถูกคงต้องเรียกว่า เป็นศัตรูที่ตามมาจองล้างจองผลาญกันไม่เลิกรามากกว่านะคะ การป้องกันและกำจัดวัชพืชจึงนับเป็นงานหลักที่เจ้าของสวนจะต้องคอยดูแลอย่างสม่ำเสมอ และลงมือกำจัดในทันทีที่เห็น เพราะละเลย รีรอให้นานไป มันก็จะขยายอิทธิพลครอบครองพื้นที่และเบียดเบียนต้นไม้ในสวนของเราอย่างรวดเร็ว ทำให้เราต้องเปลืองพลังมากขึ้นอีกเยอะ ซึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือ ฆ่าล้างโคตร เอ๊ย! ล้างโคน ด้วยการขุดแซะเพื่อถอนทั้งรากทั้งโคนออกให้เกลี้ยง
วัชพืชที่สำคัญที่มักพบในสวนและกำจัดยากมีไม่กี่ชนิดค่ะ ส่วนใหญ่มักเป็นพวกที่แข็งแรง ตายยาก รากลึก ได้แก่ หญ้าต่างๆ เช่น หญ้าแห้วหมู หญ้าชันกาด หญ้าตีนกา หญ้าขน ผักโขมหนาม ที่มีรากลึกมาก ถ้าปล่อยให้วัชพืชพวกนี้มีต้นสูงสักประมาณ 1 ฟุต แล้วจะถอนไม่ขึ้นเลย ส่วนวัชพืชพวก ไมยราบ บานไม่รู้โรยป่า น้ำนมราชสีห์ วัชพืชพวกนี้ก็โตเร็วและกำจัดยากเช่นกัน ถ้าเผลอปล่อยให้เจ้าพวกนี้สูงขึ้นมาเมื่อไหร่ ถอนกันจนหงายหลัง ก็ยังไม่ยอมหลุดง่ายๆ ถ้าปล่อยให้รกเรื้อแล้ว จะเหนื่อยแรงกับการถอนทิ้ง ยิ่งกว่าการปลูกต้นไม้ในสวนหลายเท่านักเลยค่ะ
การป้องกันกำจัดวัชพืชที่ดีที่สุดจึงอยู่ที่การให้เวลากับสวนของเราอย่างสม่ำเสมอด้วยการเดินตรวจดูสวนสัปดาห์ละครั้ง พร้อมอาวุธครบมือ อันได้แก่ เครื่องมือสำหรับขุด เหล็กปากแบนแหลม หรือเสียมปากเล็ก เมื่อพบเห็นวัชพืชขึ้นมาเมื่อไหร่ ควรรีบกำจัดทันที และหมั่นขุดคุ้ยดึงเหง้าของวัชพืชที่ซ่อนอยู่ใต้ดินออก ถ้าหากเจ้าของสวนให้เวลากับสวนเพียงสัปดาห์ละครั้ง ก็จะทำให้ต้นไม้ปราศจากวัชพืชรบกวนได้ นอกจากนี้แล้วการกำจัดวัชพืชโดยการใช้แรงงานของเราเอง ยังถือเป็นการคลายเครียด และเป็นการออกกำลังกายที่ดีอีกด้วยนะคะ

2. การพรวนดินและใส่ปุ๋ย โดยปกติควรทำประมาณ 2 เดือนต่อครั้ง โดยพรวนเพียงตื้นๆ 2-3 นิ้วก็พอ และไม่ต้องให้ร่วนละเอียดเกินไป ต้นไม้ที่มีรากตื้นและไม่ได้คลุมดินต้องพรวนด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ หลังจากพรวนดินแล้ว ก็ให้ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น สูตร 15 :15 :15 ซึ่งเป็นสูตรที่แนะนำให้ใช้กับสนามหญ้า ใส่เพียงเล็กน้อย คือ ถ้าเป็นไม้ยืนต้นหรือไม้พุ่มโดดๆ ก็ให้ปุ๋ยต้นละ 1-2 ช้อนโต๊ะ หากขึ้นเป็นกลุ่มก็เพิ่มปุ๋ยมากขึ้น โดยใส่ให้ทั่วถึงทุกต้นภายในกลุ่ม แต่ถ้าหากเป็นพืชคลุมดิน ระวังอย่าให้เม็ดปุ๋ยหรือเศษปุ๋ยค้างอยู่ตามใบและซอกใบ โดยทุกครั้งที่ใส่ปุ๋ยต้องรดน้ำตามทันที และใช้น้ำฉีดพ่นชะล้าง เศษปุ๋ยที่ตกค้างตามส่วนต่างๆ ของพืชออกให้หมดด้วยนะคะ

การพรวนดินและใส่ปุ๋ย

3. การให้น้ำ หากในช่วงที่ไม่ได้พรวนดินใส่ปุ๋ย การให้น้ำแก่ต้นไม้ในสวนจะให้พร้อมกับสนามหญ้า เนื่องจากต้นไม้มีระบบรากที่ลึกและแผ่กว้างกว่าหญ้าสนาม ดังนั้น หากว่าให้น้ำพร้อมหญ้าสนาม 2-4 วันต่อครั้ง ต้นไม้ในสวนจะไม่ขาดน้ำเลย
อย่างไรก็ตาม การให้น้ำแก่ต้นไม้ในสวนไม่ควรให้มากเกินไป เพราะนอกจากเปลืองแล้วยังเป็นการชะล้างธาตุอาหารในดินอีกด้วย และมีข้อควรระวังเวลาให้น้ำแก่ต้นไม้อยู่บ้าง คืออย่าให้น้ำตอนแดดจัด ควรให้ตอนเช้าหรือเย็น และควรจะให้ทั่วพุ่มใบด้วย เป็นการชะล้างฝุ่นและสิ่งสกปรกตามใบพืช ไม่ควรปล่อยให้ต้นไม้เริ่มมีอาการเหี่ยวเฉาแล้วค่อยรดน้ำ เพราะจะทำให้ต้นไม้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ในหน้าแล้ง หากคลุมโคนต้นไม้ด้วยเศษวัสดุต่าง ๆ เช่น หญ้าแห้ง ฟาง ก็จะช่วยทำให้ต้นไม้ไม่ขาดน้ำ และประหยัดปริมาณน้ำที่จะให้กับต้นไม้ด้วย การคลุมโคนต้นไม้ในหน้าแล้งนี้ เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก เพราะจะช่วยเก็บความชื้นไว้ให้พืชได้นาน และเป็นวิธีการป้องกันวัชพืชที่เกิดขึ้นในแปลงต้นไม้อย่างได้ผลดีอีกด้วย แต่หากเป็นหน้าฝนไม่ควรคลุมโคนต้นไม้ เพราะอาจจะกลายเป็นที่สะสมของโรคและไข่แมลงศัตรูพืช ตลอดจนอาจจะกลายเป็นแหล่งซ่อนตัวของแมลงศัตรูพืชได้อย่างดีอีกด้วย

4. การป้องกันกำจัดโรคและแมลง หากต้นไม้ได้รับการดูแลรักษาให้เจริญเติบโตดี มีความแข็งแรงสมบูรณ์ ก็จัดเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช ช่วงเวลาที่ต้นไม้มักเกิดโรคระบาดหรือแมลงศัตรูเข้าทำลาย มักจะเป็นช่างเปลี่ยนฤดูกาล โดยเฉพาะจากช่วงฤดูฝนเข้าสู่ช่วงฤดูแล้ง หรือฤดูหนาว จึงควรระวังป้องกันและทำการป้องกันกำจัดศัตรูพืชเสียตั้งแต่เนิ่นๆ สาเหตุของการเกิดโรคอีกประการหนึ่ง คือการขาดการดูแลรักษาที่ถูกวิธี เช่น การให้น้ำกับพืชบางชนิดมากเกินไป ก็จะเกิดโรคเน่า การไม่กำจัดวัชพืช หรือไม่เก็บกวาดเศษของพืชออกจากสวน ปล่อยให้เป็นที่สะสมของโรคและแมลงก็จะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคและแมลงศัตรูพืชได้เช่นกัน

สวนสวยๆ

วิธีการป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช มีหลักกว้างๆ ดังนี้
- บำรุงรักษาให้พืชพรรณในสวนสมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ถือเป็นการสร้างภูมิต้านทานเบื้องต้นให้กับต้นไม้
- กำจัดวัชพืช เก็บกวาดเศษใบไม้ใบหญ้าให้สวนดูสะอาด
- ให้น้ำแก่พืชพรรณอย่างพอเหมาะตามต้องการของพืชแต่ละชนิด
- กำจัดมดภายในสวน เพราะมดเป็นพาหะของโรคและแมลงหลายชนิด โดยเฉพาะพวกเพลี้ย
- ตัดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่ง โดยเฉพาะกิ่งที่อยู่ในทรงพุ่ม
- อย่าให้ต้นไม้เกิดบาดแผลโดยไม่จะเป็นบาดแผลที่เกิดจากการตัดแต่งกิ่งใหญ่ๆ หรือเกิดจากใบมีดรถตัดหญ้า จะต้องใช้ยาป้องกันเชื้อราหรือปูนแดงทาแผล

ดูแลต้นไม้

การเอาใจใส่และสละเวลาดูแล ตรวจตราสวนอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้สวนของเราคงความสวยงามได้ยาวนาน ที่สำคัญยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายและเติมความสุขให้กับชีวิตได้อย่างง่ายๆอีกด้วย

Garden Maintenance

ดูแลต้นไม้


No comments:

Post a Comment